
วิธีที่ผู้ค้าปลีกใช้เทคโนโลยีให้ประสบความสำเร็จ
ผู้ค้าปลีก มักใช้สายตามนุษย์ในการระบุรูปแบบสินค้าของตนเอง ทุกวันนี้ ด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยี ช่วยให้ผู้ค้าปลีกเหล่านี้สามารถผลิตสินค้าได้หลายล้านรายการต่อวัน โดยส่วนใหญ่แล้ว แบรนด์เสื้อผ้าที่ทำกำไรได้มากที่สุด คือ แบรนด์ที่ขายเสื้อผ้าที่ไม่มีใครมองไม่เห็น มันไม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์แต่เกี่ยวกับวิธีการวางการตลาดและการขาย แบรนด์เหล่านี้เชี่ยวชาญทางด้านศิลปะในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้ผู้คนส่วนร่วมสูง และดื่มด่ำไปกับสินค้าของตน ทำให้พวกเขาสามารถรักษายอดขายจากช่วงราคาต่ำเช่น 10 และ 20 ปอนด์ ซึ่งโดยทั่วไปจะขายได้ยากในตลาด
ผู้ค้าปลีก ต้องการให้ลูกค้ามีความสุขตลอดเวลา และมอบประสบการณ์การช็อปปิ้งที่ดีให้กับลูกค้า แต่มีความท้าทายหลายประการ เนื่องจากมีปัญหามากมายที่ผู้ค้าปลีกต้องเผชิญ เช่น การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงความต้องการของผู้บริโภค ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และความพร้อมในสินค้าคงคลังต่ำ เป็นต้น

เทคโนโลยีสำหรับผู้ค้าปลีก
นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องมีการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นตลอด ทำให้กระบวนการค้าปลีกเปลี่ยนเป็นดิจิทัล มีเทคโนโลยีเกิดขึ้นใหม่ที่ช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถจัดการกับตวามต้องการจากตลาดได้ ผู้ค้าปลีกสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการส่วนตัวของลูกค้า และติดตามพฤติกรรมของลูกค้า ความแม่นยำในการเลือกสินค้า คาดว่ามีคนประมาณ 7 พันล้านคนทั่วโลกที่สวม Fast Fashion เนื่องจาก Fast Fashion คือ รูปแบบเสื้อผ้าที่ทำขึ้นเพื่อประหยัดเวลา เงิน และพลังงาน แม้ว่าชิ้นส่วนเสื้อผ้าเหล่านี้จำนวนมากยังคงทำมาจากเสื้อผ้าในลักษณะที่คล้ายกัน แต่ราคาของมันก็ต้องเพิ่มขึ้น สิ่งนี้นำไปสู่ ผู้ค้าปลีก ที่ผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับเสื้อผ้าเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มยอดขาย
ตัวอย่างที่ผู้ค้าปลีกนำเทคโนโลยีมาใช้ในธุรกิจ
การทดลองใช้สินค้าได้เสมือนจริงด้วย เทคโนโลยี AR
สินค้าบางประเภทลูกค้าต้องการทดลองใช้ก่อนตัดสินใจซื้อ จึงมีเทคโนโลยีภาพเสมือน ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟน เพื่อจำลองสภาพแวดล้อมให้ลูกค้าเห็นว่า ถ้าได้ใช้สินค้านั้นจริง ๆ จะออกมาเป็นหน้าตาอย่างไร ซึ่งถ้าลูกค้าพึงพอใจ ก็สามารถมาซื้อสินค้าจริงที่หน้าร้านหรือสั่งผ่านออนไลน์ได้

หลายแบรนด์ตระหนักดีว่าพวกเขาไม่สามารถแข่งขันกับประสิทธิภาพของผู้ค้าปลีกในด้าน Fast Fashion ได้ เนื่องจากทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด พวกเขาเริ่มลงทุนในโครงการวิจัยและพัฒนา โดยเน้นเทคโนโลยีที่มองไม่เห็น ซึ่งหมายความว่าผู้ค้าปลีกเหล่านี้กำลังสร้างระบบการสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชัน และซอฟต์แวร์ของตนเอง สำหรับใช้ในร้านค้าของตน ตลอดจนสร้างโมเดลใหม่อย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีนี้ช่วยให้พวกเขาสร้างสินค้าที่ไม่ซ้ำกันในเวลาอันสั้นเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยเหตุนี้ผู้ค้าปลีกที่ได้นำเอาเทคโนโลยีมาใช้กับธุรกิจของตนเอง จะมีข้อได้เปรียบกว่าธุรกิจอื่นที่ไม่ได้ใช้งานเทคโนโลยี และส่งผลให้ธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนั้น ประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต อ่านบทความที่น่าสนใจ goimport