
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์
การขนส่งสินค้าที่ใช้กันทั่วโลกโดยใช้ตู้คอนเทนเนอร์ สำหรับในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ(ชิปปิ้ง) การจัดส่งสินค้าถือเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ดังนั้นการเลือกวิธีการจัดส่งที่เหมาะสม เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการค้าระหว่างประเทศและขึ้นอยู่กับประเภทของผลิตภัณฑ์ ที่จะจัดส่งหรือบริการพิเศษที่ผู้ใช้บริการต้องการ บทความนี้ได้รวบรวมเรื่องน่ารู้ของตู้คอนเทนเนอร์มาฝาก goimport
เรื่องน่ารู้ของตู้คอนเทนเนอร์

1. ตู้คอนเทนเนอร์ของแต่ละสายเดินเรือมีขนาดไม่เท่ากัน
สำหรับสายการเดินเรือแต่ละสายมักจะมีการสั่งผลิตตู้เป็นของตัวเอง โดยแต่ละสายเรือก็จะมีขนาดของตู้ที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปจะมีขนาดใกล้เคียงกับตู้ขนาดมาตรฐาน
2. ตัวเลขท้ายตู้คอนเทนเนอร์คือรหัสบอกรายละเอียด
สำหรับตัวเลขท้ายตู้เป็นรหัสของตู้ที่บอกรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับตู้ซึ่งจะถูกกำหนดด้วยมาตรฐาน ISO 6346 (มาตรฐานสากลที่ครอบคลุมการเข้ารหัสบัตรประจำตัวและเครื่องหมายของการขนส่ง) และ BIC (Bureau of International Containers) สำนักภาชนะบรรจุระหว่างประเทศ ประกอบด้วย รหัสเจ้าของตู้, รหัสระบุประเภทตู้, รหัสการจดทะเบียนตู้, รหัสตรวจสอบความถูกต้อง เจ้าของ ประเภท และการจดทะเบียนตู้, รหัสระบุขนาดและชนิดของตู้ เป็นต้น

3. ข้อดีและข้อเสียของตู้คอนเทนเนอร์
สำหรับข้อดีคือ ขนถ่ายสินค้าได้รวดเร็ว, ลดความเสียหายของสินค้าที่ขนส่งและป้องกันการถูกโจรกรรม, ขนส่งได้ปริมาณมาก, การสั่งจองเรือระวางเพื่อขนส่งสินค้าทำได้สะดวก, ตรวจนับสินค้าได้ง่าย
สำหรับข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับการขนส่งระยะสั้น, สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากกว่าเมื่อใช้วิธีขนส่งด้วยรถบรรทุก
4. รหัสข้างตู้คอนเทนเนอร์ต้องมี 4 ตัวอักขระ
ตัวอักขระ 4 ตัวที่แสดงขนาดและชนิดของตู้ไว้ด้วยกัน (Container Size and Type Code) เป็นรหัสตามมาตรฐานที่กำหนด ISO 6346 โดย BIC (International Container Bureau)
เช่น Code : 42G1
4 คือความยาว 40 ฟุต
2 คือความกว้างและความสูง
G1 คือชนิดตู้คอนเทนเนอร์ คือ General Purpose

5. อายุการใช้งานของตู้คอนเทนเนอร์
สามารถใช้งานได้ยาวนาน 20 ปี และด้วยความที่ทำจากวัสดุที่มีความแข็งแรง จึงไม่ได้ต้องการบำรุงรักษามากนัก เพียงแค่ทำความสะอาดตามตามปกติก็น่าจะเพียงพอแล้ว
6. ตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งถูกคิดค้นและจดสิทธิบัตรขึ้นในปี 1956
Malcom Mclean ชายชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งตู้คอนเทนเนอร์ เขาเคยเป็นคนขับรถบรรทุกมาก่อน ต่อมาได้คิดค้นการออกแบบวิธีขนส่งสินค้าด้วยตู้และได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมขนส่งด้วยระบบตู้ ที่ช่วยลดต้นทุนการขนส่งไปได้มากกว่า 90%

7. ประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ที่ใช้บ่อยที่สุดในอุตสาหกรรมการขนส่งชิปปิ้ง
Open Top Containers มีส่วนเปิดหลังคาด้านบนได้ สำหรับบรรจุวัสดุหรือสินค้าที่มีขนาดสูง
Side Open Container มีช่องเปิดที่เก็บด้านข้าง (ด้านยาว) เพื่ออำนวยความสะดวกในการบรรทุกและขนถ่ายสินค้าที่เฉพาะเจาะจง
IOS (Refrigerated ISO Containers) เป็นตู้ที่ควบคุมอุณหภูมิเย็นคงที่ เพื่อใช้ขนส่งสินค้าที่เน่าเสียได้ง่าย
Dry Container เป็นตู้ที่นิยมใช้กันมากที่สุดตามมาตรฐาน ISO เหมาะสำหรับการจัดส่งวัสดุแห้ง
Flat Rack Containers Flat Rack เป็นตู้ที่มีด้านสามารถพับเก็บได้เพื่อรองรับการขนสินค้าที่มีน้ำหนักและขนาดใหญ่

8. ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์
ขนาดตู้ตามมาตรฐานแล้วจะมี 2 ขนาดคือ ขนาด 20 ฟุต เหมาะสำหรับสินค้าหนัก เช่น เครื่องจักร และ 40 ฟุตเหมาะสำหรับสินค้าเบาที่มีจำนวนมาก
9. วัสดุและโครงสร้างของตู้คอนเทนเนอร์
ผนัง เป็นส่วนที่มีเอกลักษณ์มีลักษณะเป็นเหล็กที่พับ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง มีน้ำหนักเบาและสีที่พ่นทับมีความคงทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศและความชื้น
พื้น โดยทั่วไปเป็นวัสดุบอร์ดหรือไม้
โครงสร้าง เสาและคานที่ทำจากเหล็ก ตำแหน่งของเสาอยู่ทั้ง 4 มุมมีความแข็งแรง

10. การขนส่งแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือตู้ LCL
สำหรับ LCL (Less Than Container Load) หรือการขนส่งด้วยตู้คอนเทนเนอร์แบบไม่เต็มตู้ นิยมใช้ตู้ High Cube Container (ขนาด 40 ฟุต ) สินค้าส่วนใหญ่ที่ขนส่งแบบ LCL มักจะมีน้ำหนักเบา
ขอบคุณผู้สนับสนุน ล็อตโต้สด