
การลงทุนอสังหาริมทรัพย์
เมื่อพูดถึงอสังหาริมทรัพย์ถือว่าเรามาค่อนข้างไกลจากวันที่จะหาที่อยู่ได้จากการเช่าอพาร์ทเมนท์ แต่ปัจจุบันเราสามารถอยู่อาศัยได้ในหลาย ๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร อาคารพาณิชย์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ตลาดเฟื่องฟู แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราไม่สามารถลงทุนได้นั่นคือ การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก บางคนลงทุนซื้อเพื่อเก็งกำไรในอนาคต บางคนลงทุนเพื่อปล่อยเช่าซึ่งการลงทุนแต่ละแบบล้วนต้องใช้การติดสินใจที่แน่วแน่เนื่องจากจำนวนเงินที่เยอะไม่แพ้กัน บทความใหม่ต้องติดตาม goimport
มาทำความรู้จักกับ “อสังหาริมทรัพย์”
อสังหาริมทรัพย์คือหนึ่งในประเภทของทรัพย์สิน ที่หมายถึงที่ดินและทรัพย์สินที่อยู่ติดกับที่ดินที่อยู่อย่างถาวร เข้าใจง่าย ๆ คือสิ่งที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้หรือต้องอยู่กับที่อย่างเช่น อาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ไปจนถึงที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่กับที่ดินนั้น ไม่ว่าจะเป็นป่าไม้ แม่น้ำ ลำคลอง ล้วนแล้วเป็นอสังหาริมทรัพย์ทั้งนั้น สามารถแบ่งได้ 5 ประเภท ได้แก่
1. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย เช่น บ้าน คอนโด ทาวน์โฮม หอพัก อพาร์ตเมนต์
2. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงแรม ตึกออฟฟิศ ตลาด
3. อสังหาริมทรัพย์เพี่อการเกษตร เช่น ไร่ นา สวน ที่ดินเพื่อการทำเกษตรกรรม
4. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักผ่อน เช่น โรงแรม โฮสเทล รีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ
5. อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม เช่น โรงงาน คลังสินค้า นิคมอุตสาหกรรม

เราสามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ได้หรือไม่?
ปัจจุบันการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นเรื่องที่ยากสำหรับนักลงทุนบางคนเนื่อกจากต้องใช้เม็ดเงินที่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งการลงทุนนั้นมี 2 วิธี
1. สำหรับคนทั่วไป ก็สามารถลงทุนทางตรงผ่านการซื้อบ้านหรือคอนโด แล้วปล่อยเช่าหรือขายเก็งกำไร สำหรับภาคธุรกิจหรือคนที่มีเงินลงทุนมาก ก็สามารถสร้างคอนโด อพาร์ตเมนต์ โรงแรม คลังสินค้า หรือห้างสรรพสินค้า เพื่อขายหรือให้เช่า
2. ลงทุนทางอ้อมผ่านการซื้อกองทุนอสังหาริมทรัพย์หรือ REIT
ความเสี่ยงของการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มีอะไรบ้าง?
1.ความเสี่ยงทางธุรกิจ (Business Risk) ที่ถือได้ว่าเป็นความเสี่ยงโดยตรงที่เกี่ยวกับตัวธุรกิจทั้งเรื่องของกฎหมาย การเปลี่ยนแปลงของนโบบายของรัฐบาล เช่น เกี่ยวกับนโยบายบ้านหลังแรกซึ่งมันสามารถที่จะเป็นตัวแปรสำคัญที่แน่นอนว่ามันจะต้องส่งผลกระทบต่อธุรกิจหรืออาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบด้วยกันทั้งนั้น
2.ความเสี่ยงในด้านการเงิน (Financial Risk) ที่เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยเพราะว่าอสังหาริมทรัพย์จัดว่าเป็นธุรกิจที่ใช้เงินในการลงทุนที่สูงและถ้าพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับแหล่งของเงินกู้ก็จะต้องมาจากสถาบันการเงินดังนั้นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยก็เป็นส่วนที่สำคัญในอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว
3.ความเสี่ยงทางด้านของกำลังซื้อ (Purchasing Power) เนื่องด้วยต้องใช้เงินลงทุนที่สูงอยู่แล้วฉะนั้นมันจึงกลายเป็นความเสี่ยงที่เกี่ยวกับการจ่ายชำระเงินที่กู้มาให้แก่เจ้าหนี้ของธุรกิจที่ได้มีการกู้ไว้และยิ่งถ้าเศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่ก็ทำให้คนมีกำลังซื้อที่น้อยลงตามไปด้วย
4.ความเสี่ยงในด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk) เพราะว่าอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์ที่ถือว่ามีสภาพคล่องที่ต่ำและถ้าคิดถึงเรื่องการซื้อขายก็เป็นไปได้ค่อนข้างช้าและใช้เวลานานดังนั้นจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงเรื่องเงินหมุนเวียนเพียงพอหรือไม่ด้วย
